เวสทินโฮเทลส์
ประเภท | บริษัทลูก |
---|---|
อุตสาหกรรม | โรงแรม |
ก่อตั้ง | 1930 |
ผู้ก่อตั้ง | เซเวิร์ท เธิร์ทส์ทัน แฟร้งก์ ดูพาร์ |
สำนักงานใหญ่ | , |
จำนวนที่ตั้ง | 242[1] (กันยายน ค.ศ. 2020) |
พื้นที่ให้บริการ | รอบโลก |
บริษัทแม่ | แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล |
บริษัทในเครือ | Element by Westin |
เว็บไซต์ | westin.marriott.com/ |
เวสทิน หรือ เวสทิน โฮเท็ล แอนด์ รีสอร์ท เป็นเครือโรงแรมระดับบน ซึ่งเป็นเจ้าของโดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล โดยในปี ค.ศ.2020 เวสทินได้บริหารและเป็นเจ้าของโรงแรมกว่า 226 แห่งรอบโลก ประกอบด้วยกว่า 82,608 ห้องพัก และมีโรงแรมกว่าอีก 58 โรงแรมที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา[2]
ประวัติ
[แก้]ประวัติของกลุ่มโรงแรมเวสทิน เริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1930 กลุ่มเจ้าของธุรกิจโรงแรมนำโดยนายเซเวิร์ท เธิร์ทส์ทัน และ แฟร้งก์ ดูพาร์ ได้รวมตัวจัดตั้งเป็นบริษัทร่วมกันเพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรวมถึงปีเตอร์ และอดอล์ฟ ชมิดท์ พวกเขาได้จัดตั้งกลุ่มโรงแรมเวสเทิร์น (Western) ประกอบไปด้วยโรงแรมถึง 17 แห่งในรัฐวอร์ชิงตัน และในปีค.ศ. 1954 ก็ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งหนึ่งเป็นกลุ่มโรงแรม "เวสเทิร์น อินเตอร์แนชันแนล โฮเท็ล" (Western International Hotel) โดยในปีค.ศ.1958 ก็ได้มีการตั้งศูนย์การจัดการไว้ที่สำนักงานใหญ่ และในปีค.ศ. 1963 กลุ่มโรงแรมฯก็ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก
ในปีครบรอบ 50 ปีแห่งการก่อตั้งกลุ่มโรงแรม ในปีค.ศ. 1980 จึงได้มีมติเปลี่ยนชื่อเป็น "เวสทิน โฮเท็ล แอนด์ รีสอร์ท" (Westin Hotel and Resort) เช่น ณ ปัจจุบัน
ในปีค.ศ. 1970 กลุ่มโรงแรมฯได้ถูกซื้อโดยกลุ่มบริษัท ยูเอแอล โดยในปีค.ศ. 1987 ประธานบริหาร ริชาร์ด เฟอร์ริส ได้ประกาศถึงความพยายามจะสร้างพันธมิตรร่วมกันกับสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ รถเช่าเฮิร์ทซ์ กลุ่มโรงแรมฮิลตัน กลุ่มโรงแรมเวสทิน โดยใช้ฐานข้อมูลระบบอพ็อลโล ซึ่งสุดท้ายก็ได้ล้มเลิกไปในที่สุด
ในปีค.ศ. 1988 กลุ่มโรงแรมเวสทิน ได้เปลี่ยนเจ้าของอีกครั้งเป็นกลุ่มบริษัท อาโอกิ แห่งประเทศญี่ปุ่น และในปีค.ศ. 1994 ก็ได้ขายให้กับกลุ่มบริษัททุนสตาร์วูด ซึ่งเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน ร่วมทุนกับธนาคารโกลด์แมน ซาร์ช ในที่สุดเมื่อปีค.ศ. 1998 กลุ่มสตาร์วูด ได้ถือหุ้นบริหารเต็มทั้งหมด
เวสทินได้ถือเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมใหม่ๆในการให้บริการลูกค้าที่กลายมาเป็นมาตรฐานของโรงแรมชั้นเยี่ยมในปัจจุบัน อาทิเช่น การใช้บัตรเครดิตแทนเงินสด (ในปีค.ศ. 1946) บริการรูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง (ในปีค.ศ. 1969) และวอยซ์เมลล์ส่วนตัวของห้องพัก (ในปีค.ศ. 1991)[3]
การตลาดที่สำคัญของเวสทิน คือกลุ่มอุปกรณ์เครื่องนอนและความสะดวกสบายในห้องพัก ซึ่งได้มีการนำผลิตภัณฑ์ออกมาขายปลีก โดยมีการสร้างแบรนด์ เฮเวนลี่ (Heavenly) ขึ้นในปีค.ศ. 2005 ซึ่งบุกเบิกด้านเครื่องนอน และผ้าปูที่นอนในแบรนด์ เฮเวนลี่ มากกว่า 60 สาขาในสหรัฐอเมริกา
ในห้วงทศวรรษที่ผ่านมา เวสทินได้ขยายกิจการอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ปีค.ศ. 2005 จำนวนโรงแรมที่บริหารโดยเวสทิน ได้เพิ่มขึ้นจาก 120 โรงแรมใน 24 ประเทศ เป็นกว่า 160 โรงแรม ใน 37 ประเทศ ข้อมูล ณ ปีค.ศ. 2011
ดูเพิ่ม
[แก้]รูปภาพ
[แก้]-
Uptown Houston's Westin Oaks
-
Westin at Los Angeles International Airport in Los Angeles
-
The Westin Seattle in downtown Seattle, Washington
-
Westin Zagreb, Croatia
-
Westin Times Square, New York City
-
Westin in Savannah, Georgia
-
Westin Harbour Castle Hotel in Toronto - formerly Harbour Castle Hilton (moved to Toronto Hilton)
-
An exterior view of The Westin Resort, Costa Navarino inspired by traditional mansions of Messinia in Greece
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Westin Hotel Locations". Marriott.com.
- ↑ "Westin". Marriott Hotels Development. สืบค้นเมื่อ 2020-08-19.
- ↑ "Westin History". Starwood Hotels. สืบค้นเมื่อ 2007-12-28.