นารา ชิกามารุ
นารา ชิกามารุ | |
---|---|
ตัวละครใน นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ | |
นารา ชิกามารุ ในภาคที่ 1 งานศิลปะโดยมาซาชิ คิชิโมโตะ | |
ปรากฏครั้งแรก |
|
สร้างโดย | มาซาชิ คิชิโมโตะ |
ให้เสียงโดย | ญี่ปุ่น โชตาโร โมริกูโบะ[1] โนบูโตชิ คันนะ (นารูโตะ นินจาจอมคาถา ตอนที่ 141)[2] อังกฤษ ทอม กิบิส[3] |
ญาติที่มีชื่อเสียง | นารา ชิคาคุ (พ่อ, เสียชีวิต) เทมาริ (ภรรยา) นารา ชิกาได (ลูกชาย) กาอาระ (น้องเขย) คันคุโร่ (น้องเขย) ราสะ (พ่อตา, เสียชีวิต) คารุระ (แม่ยาย, เสียชีวิต) ชินกิ (หลานเขยบุญธรรม) นารา โยชิโนะ (แม่) ยาชามารุ (ลุงเขย, เสียชีวิต) |
ระดับชั้นนินจา | เกะนินในครึ่งแรกของภาคที่ 1
จูนินในครึ่งหลังของภาคที่ 1 และภาคที่ 2 ทั้งหมด[4]
|
ทีมนินจา | ทีม 10 |
นารา ชิกามารุ (ญี่ปุ่น: 奈良シカマル; อังกฤษ: Shikamaru Nara) เป็นตัวละครในมังงะและอนิเมะซีรีส์นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ ที่ได้รับการสร้างสรรค์โดยมาซาชิ คิชิโมโตะ ในอนิเมะและมังงะ ชิกามารุเป็นนินจาในหมู่บ้านโคโนฮะ เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของทีม 10 ซึ่งเป็นกลุ่มของนินจาที่ประกอบด้วยอาคิมิจิ โจจิ, ยามานากะ อิโนะ และมีผู้นำทีมชื่อซารุโทบิ อาซึมะ ซึ่งชิกามารุเป็นตัวละครที่มีนิสัยขี้เกียจ และไม่เต็มใจที่จะใช้ความฉลาดอันน่าอัศจรรย์ของเขา และได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าคิชิโมะโตะซึ่งเป็นผู้เขียนนั้น มีความชอบต่อชิกามารุเนื่องด้วยมีนิสัยชอบความสบาย[5] นอกเหนือจากอนิเมะและมังงะซีรีส์นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ ชิกามารุยังได้ปรากฏตัวในเวอร์ชันภาพยนตร์ถึงสี่ภาค เช่นเดียวกับสื่ออื่น ๆ อีกหลายสื่อที่เกี่ยวข้องกับซีรีส์ ซึ่งประกอบไปด้วยวิดีโอเกมและออริจินอลวิดีโอแอนิเมชัน
มีอนิเมะและสิ่งพิมพ์มังงะมากมายที่มีความเห็นเกี่ยวกับตัวละครชิกามารุ หลายคนได้วิจารณ์เกี่ยวกับความเกียจคร้านและสติปัญญาของเขา[6][7] และสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงถึงความเป็นผู้นำของเขา เว็บไซต์อนิเมะนิวส์เน็ตเวิร์คได้ยกย่องถึงวิวัฒนาการของตัวละครชิกามารุว่า "ไม่เหมือนพระเอก" ตามโครงเรื่องของนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ[8] นอกจากนี้ ชิกามารุยังเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้อ่านนินจาคาถาโอ้โฮเฮะเป็นอย่างมาก โดยได้อยู่ในอันดับต้น ๆ จากการสำรวจความนิยมอยู่หลายครั้ง[9][10] สินค้าที่อิงจากชิกามารุที่ได้รับการเปิดตัว ประกอบด้วย แอ็กชันฟิกเกอร์, พวงกุญแจ และแผ่นแปะ[11][12][13]
การสร้างและแนวคิด
[แก้]นารา ชิกามารุ เป็นหนึ่งในตัวละครที่ฉลาดที่สุดในอนิเมะมังงะเรื่องนารูโตะ แรกเริ่มเดิมทีมาซาชิ คิชิโมโตะ ได้สร้างชิกามารุเพื่อให้เขาเป็นผู้ชนะเพียงคนเดียวของนินจาคาถาโอ้โฮเฮะยุคแรก ในการสอบจูนิน ตามสติปัญญาระดับสูงของเขา อย่างไรก็ตาม คำแนะนำจากบรรณาธิการของเขาส่งผลให้คิชิโมโตะตัดสินใจขัดจังหวะทัวร์นาเมนต์การต่อสู้ระหว่างนินจาเพื่อมุ่งเน้นไปที่โอโรจิมารุ ซึ่งเป็นจอมวายร้ายที่เพิ่งเปิดตัว อย่างไรก็ตาม ชิกามารุกลายเป็นนินจาเพียงคนเดียวจากการสอบแรกเริ่มเพื่อให้ได้อันดับที่สูงขึ้นในภาค 1 ของซีรีส์[14]
มาซาชิ คิชิโมโตะ ได้รับการตั้งข้อสังเกตว่าเขามีความชื่นชอบต่อชิกามารุ เนื่องด้วยชอบความสบาย ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีความเป็นอัจฉริยะ และตรงกันข้ามกับอุจิวะ ซาสึเกะ ที่ดูฉลาด แต่กลับมีลักษณะของความเคียดแค้นชิงชัง[5] นอกจากนี้ คิชิโมะโตะยังเคยกล่าวอย่างติดตลก ว่าเขาจะแต่งงานกับชิกามารุหากเขาเป็นผู้หญิง โดยบอกว่าชิกามารุมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต เมื่อได้มีการออกแบบชิกามารุในภาคสอง คิชิโมะโตะต้องการวาดชิกามารุไม่ให้มีลักษณะซ้ำกับแบบเดิมด้วยเสื้อกั๊กที่นินจาคนอื่นในซีรีส์หลายคนได้สวมใส่ เขาจึงต้องวาดเครื่องป้องกันหน้าผากอยู่ตรงบริเวณแขนเพื่อที่จะได้ไม่ปิดบังผมเผ้าของตัวละครนี้[15]
ในภาคสอง ซารุโทบิ อาซึมะ ซึ่งเป็นครูของชิกามารุ ได้เสียชีวิตขณะต่อสู้กับฮิดัน ผู้เป็นสมาชิกผู้ก่อการร้ายแสงอุษา และชิกามารุเริ่มสูบบุหรี่ของอาซึมะชั่วครู่ ซึ่งมาซาชิ คิชิโมโตะ กลัวว่าสำนักพิมพ์ชูเอชะจะตำหนิเรื่องนี้เนื่องจากชิกามารุยังเป็นวัยรุ่น และนิตยสารมังงะก็มุ่งเป้าไปที่กลุ่มประชากรรุ่นเยาว์ อย่างไรก็ตาม ฉากเหล่านี้ไม่ได้ถูกเซ็นเซอร์[14] อนึ่ง สำหรับตอนจบของซีรีส์ มาซาชิ คิชิโมโตะ ได้แนะนำลูกชายของชิกามารุกับเทมาริ ชื่อว่าชิกาได ซึ่งเกือบจะเหมือนกับพ่อของเขา อย่างไรก็ตาม มาซาชิ คิชิโมโตะ ตั้งเป้าให้ทั้งคู่มีลักษณะที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคต่อของมังงะดังกล่าวเรื่องโบรูโตะ: นารูโตะ เน็กซ์ เจนเนเรชั่น[16]
การปรากฏตัว
[แก้]ในนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ
[แก้]ชิกามารุมีบทปรากฏตัวครั้งแรกในซีรีส์เมื่อครั้งที่เป็นช่วงสอบจูนิน ซึ่งเป็นการสอบรอบสองเพื่อการเลื่อนตำแหน่งนินจาที่มีขึ้นเป็นประจำทุกปี เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีม 10 ร่วมกับอาคิมิจิ โจจิ และยามานากะ อิโนะ[17] เขาเป็นคนที่ไม่มีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก และต้องการที่จะใช้ชีวิตเลยผ่านไปโดยไม่ใช้ความพยายาม[18][19] ตรงกันข้ามกับความขี้เกียจของเขา ชิกามารุเป็นคนที่ฉลาดมาก ซารุโทบิ อาซึมะ ซึ่งเป็นครูของเขา ได้ระบุว่าระดับเชาวน์ปัญญาของชิกามารุมีเกินกว่า 200 [20] ความสามารถของชิกามารุคือการใช้คาถาเงาเลียนแบบ (ญี่ปุ่น: 影真似の術) ซึ่งเป็นเทคนิคประจำตระกูล ที่เป็นการผสานเงาของเขาเข้ากับเงาของฝ่ายศัตรู โดยทำให้อีกฝ่ายถูกตรึงและถูกบังคับให้เลียนแบบการเคลื่อนไหวของชิกามารุ[21] ในฐานะที่ดำเนินเรื่องอย่างต่อเนื่อง ชิกามารุยังสามารถจัดการกับเงาของเขาได้ในรูปแบบใหม่[22] โดยในภาคสองของซีรีส์ ชิกามารุสามารถใช้เทคนิคเงาติดตามได้หลายเงาและสามารถยกเงาของเขาจากพื้นดินเพื่อที่จะโต้ตอบกับวัตถุทางกายภาพได้ เช่น เขาสามารถใช้เงาเลื้อยกระซวกร่างของศัตรู หรือใช้ให้พวกมันทำการซัดอาวุธออกไปได้[23][24]
ชิกามารุเข้าร่วมการสอบด้วยความรู้สึกที่ไม่แยแส เมื่อเขาต่อสู้กับเทมาริซึ่งเป็นนินจาจากหมู่บ้านสึนะ ชิกามารุสามารถปราบเธอได้ แต่ทว่า เขาก็ได้ขอยอมแพ้ต่อเธอ เนื่องด้วยพลังจักระของเขาได้แผ่วลง[25] แม้ว่าเขาจะแพ้ เขาก็เป็นนินจาเพียงคนเดียวในหมู่เพื่อนร่วมงานที่ได้รับการเลื่อนยศเป็นจูนิน เนื่องด้วยทางกรรมการผู้จัดการสอบเกิดความประทับใจและประจักษ์ต่อความปราดเปรื่องของเขาเมื่อได้เผชิญกับเทมาริ[19] ในฐานะที่เป็นจูนิน ชิกามารุได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำของทีมในการขัดขวางการแปรพักตร์ของอุจิวะ ซาสึเกะ ไปยังหมู่บ้านโอโตะ[26] แม้ว่าทีมของชิกามารุจะสามารถเอาชนะนินจาจากหมู่บ่านโอโตะในเส้นทางที่พวกเขามุ่งหน้าไป แต่ซาสึเกะก็สามารถหลบหนีไปได้[27]
ในภาคสองของซีรีส์ ชิกามารุเปลี่ยนการแต่งตัวเป็นใส่เครื่องแบบจูนนินโจนินขึ้นไปอย่างเต็มตัว ได้รับมอบหมายงานในการหาที่ตั้งของสองสมาชิกขององค์กรลับแห่งกลุ่มแสงอุษา[28] ในขณะที่ทีมของเขาทำการตามหาเป้าหมาย สมาชิกกลุ่มแสงอุษาผู้เป็นอมตะที่ชื่อฮิดัน ได้ทำการสังหารซารุโทบิ อาซึมะ ในระหว่างการต่อสู้ แม้ว่าชิกามารุจะพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วก็ตาม[29] หลังจากงานศพของอาซึมะ ชิกามารุได้ออกเดินทางพร้อมกับสมาชิกทีม 10 เพื่อล้างแค้นให้กับอาจารย์ของพวกเขา โดยได้รับความช่วยเหลือจากฮาตาเกะ คาคาชิ[30] ในฐานะที่ได้จัดการแยกคาคุซึซึ่งเป็นคู่ของฮิดันออกไป ชิกามารุแก้แค้นให้แก่อาซึมะโดยได้เป็นฝ่ายชนะต่อฮิดัน และทำให้แน่ใจว่าเหล่าสมาชิกกลุ่มแสงอุษาจะไม่สามารถพบร่างของมันได้อีกโดยการใช้หินถล่ม[31] หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น ชิกามารุได้สัญญาที่จะดูแลลูกสาวแรกเกิดของอาซึมะ กับยูฮิ คุเรไน[32] ในภายหลังเขาได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นแม่ทัพกองพลที่ 4 ซึ่งมีเทมาริและโจจิเข้าร่วม ภายใต้การมอบหมายโดยกาอาระ[33] และในตอนท้ายของซีรีส์ ได้มีการกล่าวถึงความปรารถนาส่วนตัวของเขาในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ชิกามารุได้กลายเป็นที่ปรึกษาของนารูโตะ ผู้เป็นโฮคาเงะรุ่นที่ 7 หลังจากที่ได้แต่งงานกับเทมาริ และมีลูกชายชื่อนารา ชิกาได
การปรากฏตัวในสื่ออื่น
[แก้]นอกเหนือจากอนิเมะและมังงะนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ ชิกามารุยังมีบทบาทในนารูโตะ เดอะมูฟวี่ ศึกครั้งใหญ่ ผจญนครปิศาจใต้พิภพ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ชุดที่สองของซีรีส์ โดยในภาพยนตร์ภาคนี้ เขาได้ทำการช่วยเหลืออุซึมากิ นารูโตะ และฮารุโนะ ซากุระ ในการต่อสู้กับไฮโด โดยมีเป้าหมายที่จะครองโลกด้วยอำนาจแห่งเกเรล[34] และในภาพยนตร์นารูโตะ ตำนานวายุสลาตัน เดอะมูฟวี่ ฝืนพรหมลิขิต พิชิตความตาย ซึ่งเป็นชุดที่สี่ของซีรีส์ ชิกามารุได้ปรากฏตัวในช่วงสั้น ๆ โดยได้ทำการต่อสู้กับกองทัพวิญญาณทหารดินเผา[35] นอกจากนี้เขายังได้ปรากฏตัวในออริจินอลวิดีโอแอนิเมชันตอนที่สาม ที่ซึ่งเขาได้เข้าร่วมการแข่งขัน[36] ชิกามารุยังเป็นตัวละครที่สามารถเล่นได้ในวิดีโอเกมนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ เกือบทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยซีรีส์แคลชออฟนินจา และซีรีส์นารูติเมตแอคเซล[37][38][39] โดยในบางเกม เขาจะใช้เทคนิคเงาเลียนแบบที่ไม่เคยพบเห็นในอนิเมะหรือมังงะ อย่างนารูโตะชิปปุเดง: เงะกิโตนินจาไทเซ็น! อีเอ็กซ์ 2 ซึ่งนับเป็นการปรากฏตัวในภาคสองของชิกามารุเป็นครั้งแรกในรูปแบบของวิดีโอเกม[40]
การตอบรับ
[แก้]จากการสำรวจความนิยมในโชเน็งจัมป์รายสัปดาห์ ชิกามารุได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของซีรีส์ โดยติดอันดับหนึ่งในสิบมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเคยได้อยู่ในอันดับสี่จากการสำรวจความคิดเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง[9][10] และจากการสำรวจความคิดเห็นครั้งสุดท้ายในปี ค.ศ. 2011 ชิกามารุได้อยู่ในอันดับเก้าต่อจากอากาซึนะ โนะ ซาโซริ และแซงหน้าฮิวงะ ฮินาตะ นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่อิงจากชิกามารุที่ได้รับการเปิดตัว ซึ่งประกอบด้วย แอ็กชันฟิกเกอร์, พวงกุญแจ และแผ่นแปะ ทั้งในแบบที่ได้ปรากฏตัวในภาคหนึ่งและภาคสอง[11][12][13] กลุ่มลูกค้าของบริษัทโทรคมนาคมเอ็นทีทีได้โหวตให้เขาเป็นตัวละครอนิเมะชายผมดำที่ได้รับความนิยมในอันดับที่สิบหก[41] ส่วนฮิโระชิ มะสึยะมะ ผู้เป็นซีอีโอของไซเบอร์คอนเนคทู ได้กล่าวว่าชิกามารุเป็นหนึ่งในตัวละครนินจาคาถาโอ้โฮเฮะที่เขาชอบ[42]
มีมังงะ, อนิเมะ, วิดีโอเกม และสื่ออื่นอีกหลายสื่อ ที่แสดงความคิดเห็นต่อตัวละครชิกามารุ เว็บไซต์ไอจีเอ็นระบุว่าชิกามารุเป็นหนึ่งในตัวละครที่พวกเขาชื่นชอบในซีรีส์นี้ และกล่าวถึงเขาว่าเป็น "เด็กบนแผ่นโปสเตอร์ ที่เป็นตัวแทนของเจนเอกซ์" เนื่องด้วยขาดความกระตือรือร้น และไม่เต็มใจที่จะใช้ศักยภาพที่มีอยู่[6] ในบทวิจารณ์ตอนที่ 110 เว็บไซต์ไอจีเอ็นได้ยกย่องชิกามารุว่าเขาสามารถเอาชนะนิสัยขี้เกียจเมื่อได้รับคำสั่งในการเป็นผู้นำของทีมสำหรับการพาตัวอุจิวะ ซาสึเกะ กลับคืนมา[7] และยังเห็นด้วยว่าการเลื่อนตำแหน่งให้เขาได้เป็นจูนินนั้น มีความเป็นธรรม[43] เว็บไซต์อนิเมะนิวส์เน็ตเวิร์คยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนานี้ โดยกล่าวถึงวิวัฒนาการของชิกามารุว่า "ไม่เหมือนพระเอก" ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญ[8] สำหรับในบทวิจารณ์หลังจากตอนที่ 135 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ของภารกิจในการพาซาสึเกะกลับคืนมาได้ประสบความล้มเหลว อีกทั้งเหล่าสมาชิกทีมของชิกามารุได้รับบาดเจ็บสาหัส เว็บไซต์ไอจีเอ็นได้ยกย่องว่าเป็น "ช่วงเวลาสำคัญ" ที่ชิกามารุเริ่มหลั่งน้ำตาหลังจากการที่ได้รู้ว่าเพื่อน ๆ ของเขาสามารถฟื้นกลับคืนมา และได้รับการรับรองว่าเขาจะเป็นผู้นำที่ดีกว่า เมื่อเห็นแก่ประโยชน์ของเพื่อน ๆ[44] ส่วนเว็บไซต์มาเนีย.คอม ได้ประกาศถึง "สติปัญญาที่แท้จริง" ของชิกามารุ โดยกล่าวถึงเขาว่าเป็น "หนึ่งในตัวละครที่น่าสนใจที่สุดของซีรีส์" และ "หนึ่งในนักสู้ผู้มีความฉลาดอย่างแท้จริงที่มีอยู่เพียงไม่กี่รายในอนิเมะแนวโชเน็ง"[45] ส่วนการวิจารณ์อื่นได้กล่าวถึงการต่อสู้ของเขากับเทมาริในช่วงการสอบจูนินว่าเป็น "หนึ่งในการต่อสู้ที่ดีกว่า สำหรับบทบาทของตัวละครสมทบ"[46]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Studio Pierrot (October 17, 2002). "宿敵!?サスケとサクラ". Naruto. ตอน 3. TV Tokyo.
- ↑ Studio Pierrot (June 29, 2005). "サクラの決意". Naruto. ตอน 141. TV Tokyo.
- ↑ Studio Pierrot (September 17, 2005). "Sasuke and Sakura: Friends or Foes?". Naruto. ตอน 3. Cartoon Network.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2005). NARUTO―ナルト―[秘伝・闘の書]. Shueisha. pp. 116–117. ISBN 4-08-873734-2.
- ↑ 5.0 5.1 Kishimoto, Masashi (2007). Uzumaki: The Art of Naruto. Viz Media. p. 139. ISBN 1-4215-1407-9.
- ↑ 6.0 6.1 Sparrow, A.E. (2007-10-09). "IGN: Naruto Reader's Guide". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-20. สืบค้นเมื่อ 2008-02-08.
- ↑ 7.0 7.1 White, Charles (2007-10-27). "IGN: Formation! The Sasuke Retrieval Squad! Review". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-01-28.
- ↑ 8.0 8.1 Kimlinger, Carl (2008-08-04). "Naruto DVD Box Set 9 - Review". Anime News Network. สืบค้นเมื่อ 2008-09-18.
- ↑ 9.0 9.1 Kishimoto, Masashi (2008). "Chapter 245". Naruto, Volume 28. Viz Media. pp. 8–9. ISBN 1-4215-1864-3.
- ↑ 10.0 10.1 Kishimoto, Masashi (2007). "Chapter 199". Naruto, Volume 22. Viz Media. p. 9. ISBN 1-4215-1858-9.
- ↑ 11.0 11.1 "Naruto: Shikamaru Chibi Style PVC Key Chain". Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 2008-02-24.
- ↑ 12.0 12.1 "Naruto Basic > Shikamaru Action Figure". Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 2008-02-24.
- ↑ 13.0 13.1 "Naruto: Patch - Shikamaru". Amazon.com. สืบค้นเมื่อ 2008-02-24.
- ↑ 14.0 14.1 漫道コバヤシ第13号「NARUTO完結!岸本斉史SP」 [Kobayashi No. 13 'Completion of Naruto! Masashi Kishimoto SP'] (ภาษาญี่ปุ่น). Fuji Television. December 13, 2014.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2008). Naruto Character Official Data Book Hiden Sha no Sho. Shueisha. p. 344. ISBN 978-4-08-874247-2.
- ↑ "Masashi Kishimoto Talks About Boruto Manga, Naruto, Hinata & Sakura's Relationship Full 2017 Interview". Spiralling Sphere. January 31, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 11, 2017. สืบค้นเมื่อ July 13, 2017.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2007). "Chapter 190". Naruto, Volume 21. Viz Media. ISBN 1-4215-1855-4.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2004). "Chapter 97". Naruto, Volume 5. Viz Media. p. 131. ISBN 1-4215-0241-0.
- ↑ 19.0 19.1 Kishimoto, Masashi (2007). "Chapter 172". Naruto, Volume 20. Viz Media. ISBN 1-4215-1088-X.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2006). "Chapter 107". Naruto, Volume 12. Viz Media. pp. 159–160. ISBN 1-4215-0242-9.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2002). NARUTO―ナルト―[秘伝・臨の書]. Shueisha. p. 171. ISBN 4-08-873288-X.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2007). "Chapter 208". Naruto, Volume 23. Viz Media. ISBN 1-4215-1859-7.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2006). "Chapter 325". Naruto, Volume 36. Shueisha. ISBN 4-08-874288-5.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2007). "Chapter 338". Naruto, Volume 37. Shueisha. ISBN 978-4-08-874338-7.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2006). "Chapter 108". Naruto, Volume 12. Viz Media. ISBN 1-4215-0242-9.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2007). "Chapter 182". Naruto, Volume 21. Viz Media. ISBN 1-4215-1855-4.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2007). "Chapter 235". Naruto, Volume 26. Viz Media. ISBN 1-4215-1862-7.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2006). "Chapter 318". Naruto, Volume 35. Shueisha. p. 176. ISBN 978-4-08-874273-1.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2006). "Chapter 327". Naruto, Volume 36. Shueisha. ISBN 4-08-874288-5.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2007). "Chapter 331". Naruto, Volume 37. Shueisha. ISBN 978-4-08-874338-7.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2007). "Chapter 339". Naruto, Volume 37. Shueisha. ISBN 978-4-08-874338-7.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2007). "Chapter 342". Naruto, Volume 38. Shueisha. ISBN 978-4-08-874364-6.
- ↑ Kishimoto, Masashi (2010). "Chapter 515". Naruto, Volume 56. Shueisha. p. 115. ISBN 978-4-08-870218-6.
- ↑ Naruto The Movie 2: Legend of the Stone of Gelel (DVD). Viz Video. 2008. สืบค้นเมื่อ 2009-03-22.
- ↑ Naruto Shippuden: the Movie. Viz Video. 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (DVD)เมื่อ 2013-09-05. สืบค้นเมื่อ 2014-12-09.
- ↑ ついに激突!上忍VS下忍!!無差別大乱戦大会開催!! (DVD). TV Tokyo. 2005.
- ↑ Bozon, Mark (2006-09-29). "Naruto: The Complete Fighter Profile". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-05-16. สืบค้นเมื่อ 2008-02-08.
- ↑ Alfonso, Andrew (2004-09-26). "TGS 2004: Naruto Gekitou Ninja Taisen! 3 Hands-on". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-03-04. สืบค้นเมื่อ 2008-02-08.
- ↑ Naruto: Ultimate Ninja English instruction manual. Namco Bandai. 2006. p. 26.
- ↑ "NARUTO-ナルト- 疾風伝:TV東京 - Goods" (ภาษาญี่ปุ่น). TV Tokyo. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-03-01. สืบค้นเมื่อ 2008-03-04.
- ↑ Dong, Bamboo (May 5, 2014). "Japanese Fans Rank Their Favorite Black-Haired Anime Characters". Anime News Network. สืบค้นเมื่อ May 5, 2014.
- ↑ "How Mecha Naruto Was Made For Naruto Shippuden: Ultimate Ninja Storm Revolution". Siliconera. May 10, 2014. สืบค้นเมื่อ May 10, 2014.
- ↑ White, Charles (2008-10-15). "Naruto: "The Battle Begins: Naruto vs. Sasuke" Review". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-04-28.
- ↑ White, Charles (2008-01-30). "IGN: "The Promise That Could Not Be Kept" Review". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-04-28.
- ↑ Rich, Justin (2007-10-04). "Naruto Box Set 04 (also w/special edition)". Mania.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-10. สืบค้นเมื่อ 2008-11-05.
- ↑ Moure, Dani (2008-04-21). "Naruto Unleashed Set 3:1". Mania.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-03. สืบค้นเมื่อ 2008-11-05.