ภาพยนตร์สารคดีเรื่องจดหมายจากมาซานเจียฉายที่เทศกาลภาพยนตร์กลางแจ้งเมืองโอรีโออี ประเทศกรีซ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2023

ภาพยนตร์สารคดีนี้บันทึกการคุมขังผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่ชื่อ ซุนยี ในค่ายบังคับใช้แรงงานมาซานเจียที่อื้อฉาวอย่างตรงไปตรงมา ที่นั่นเขาถูกบังคับให้ทำของตกแต่งวันฮาลโลวีนราคาถูก เขาซ่อนจดหมายประมาณ 20 ฉบับที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับความโหดร้ายที่เกิดขึ้นที่มาซานเจียไว้ในบรรจุภัณฑ์ของสินค้าสำเร็จรูป จูลี่ คีท คุณแม่คนหนึ่งในเมืองออริกอนพบจดหมายฉบับหนึ่งของเขา การค้นพบของเธอเป็นจุดเริ่มของเหตุการณ์ต่อเนื่องที่นำไปสู่ความสนใจของสื่อนานาชาติ

ภาพยนตร์สารคดีเรื่องจดหมายจากมาซานเจียฉายในเทศกาลภาพยนตร์กลางแจ้งที่เมืองโอรีโออี ซึ่งเป็นเมืองทางเหนือของเกาะเอเวีย เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของกรีซ

หลังจากที่เขาถูกปล่อยตัวจากค่ายแรงงาน ซุนยีใช้กล้องบันทึกภาพชีวิตของเขาภายใต้การเฝ้าคุมอย่างเข้มงวด และแสดงให้เห็นว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงกดขี่ข่มเหงเขาอย่างต่อเนื่องอย่างไร จากฉากต่าง ๆ ที่ซุนยีวาดด้วยมือ ภาพยนตร์นำมาสร้างใหม่โดยใช้แอนิเมชันว่าเขาถูกบังคับให้ใช้แรงงานอย่างไร เขาถูกทรมานอย่างไร และเขาเขียนและซ่อนจดหมายขอความช่วยเหลือในขณะที่เขาอยู่ในค่ายแรงงานอย่างไร อย่างไรก็ตาม การประทุษร้ายฝ่าหลุนกงยังไม่หยุด ซุนยีจึงต้องหลบหนีออกจากประเทศจีน

จดหมายจากมาซานเจีย ฉายในวันแรกของเทศกาลภาพยนตร์กลางแจ้ง ซึ่งจัดในวันที่ 1 ถึง 7 สิงหาคม เทศกาลนี้จัดโดยสมาคมวัฒนธรรมและกิจกรรมกลางแจ้งโอรีโออี (Oreoi Cultural & Outdoor Association)

จดหมายจากมาซานเจีย เผยแพร่บนเว็บไซต์ทางการของภาพยนตร์

ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงตอบคำถามจากผู้ชม

หลังการฉายภาพยนตร์ อะเลียซึ่งเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนกงอธิบายให้ผู้ชมฟังว่าฝ่าหลุนกงคืออะไร และพรรคคอมมิวนิสต์จีนประทุษร้ายการฝึกบำเพ็ญนี้อย่างไรในประเทศจีน จากนั้นเธอก็ตอบคำถามจากผู้ชม

ชายคนหนึ่งถามว่า “เมื่อนักโทษ [ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงที่ถูกคุมขัง] ถูกทรมาน พวกเขาต้องทำอะไรก่อนจึงจะได้รับการปล่อยตัว”

อะเลียตอบว่า “พวกเขาถูกบังคับให้พูดว่าฝ่าหลุนกงไม่ดี และบอกว่าพวกเขาจะเลิกฝึก” “ที่จริงผู้ฝึกฝ่าหลุนกงได้รับประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจจากการฝึกฝ่าหลุนกง และการฝึกนี้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว การงาน และสังคมของพวกเขาเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ผู้ฝึกจำนวนมากจึงยอมถูกทรมานมากกว่าจะพูดอะไรที่ขัดต่อมโนธรรมของพวกตัวเอง”

หญิงคนหนึ่งถามว่า ในยุคดิจิทัลเช่นนี้ ชาวจีนสามารถทำอะไรได้บ้างให้การปกครองแบบเผด็จการของพรรคคอมมิวนิสต์จีนสิ้นสุดลงและมีเสรีภาพมากขึ้น

อะเลียตอบว่าผู้ฝึกฝ่าหลุนกงไม่เคยใช้ความรุนแรง และกิจกรรมทั้งหมดก็สงบสันติ ผู้ฝึกฝ่าหลุนกงชาวจีนก็เหมือนกับซุนยี—พวกเขาเสี่ยงชีวิตเพื่อพิมพ์แผ่นพับและเอกสารอื่น ๆ เพื่อแจกจ่ายและบอกผู้คนว่าฝ่าหลุนกงวิเศษอย่างไรและบอกความจริงเกี่ยวกับการประทุษร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในขณะเดียวกันผู้ฝึกฝ่าหลุนกงนอกประเทศจีนได้ใช้สันติวิธี เช่น การแสดงศิลปะ ภาพยนตร์ โทรทัศน์ และการแสดงสด เพื่อเผยแพร่ความจริงและลบล้างความเสียหายที่เกิดจากโฆษณาชวนเชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

“การปิดกั้นข้อมูลข่าวสารของประเทศจีนเข้มงวดมาก สิ่งที่พวกคุณทำจึงไม่ง่ายเลย ขออวยพรให้พวกคุณ !” ผู้ชมกล่าวแสดงความคิดเห็น

อะเลียพูดว่าสื่อทั้งหมดในประเทศจีนถูกพรรคคอมมิวนิสต์จีนควบคุม ประชาชนไม่สามารถใช้ FaceBook, Twitter, YouTube, Google ฯลฯ ได้อย่างอิสระ ยากมากที่จะได้รับข้อมูลที่แท้จริง ถ้าใครโพสต์สิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ชอบบนอินเทอร์เน็ต สิ่งนั้นจะถูกลบภายในไม่กี่วินาที

ชายคนหนึ่งถามว่า “ทำไมประชาชนไม่ต่อต้าน”

อะเลียอ้างถึงเหตุการณ์เผาตัวเองที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเพื่อเป็นตัวอย่างในการอธิบายวิธีที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนล้างสมองและกดขี่ข่มเหงประชาชนของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม ประชาชนทั่วไปไม่กล้าต่อต้าน ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังถูกล้างสมองให้เชื่อโฆษณาชวนเชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วย

อะเลียยังบอกผู้ชมด้วยว่ามีบางคนในประเทศจีนที่ต่อต้าน ตลอด 24 ปีที่ผ่านมาผู้ฝึกฝ่าหลุนกงในประเทศจีนยังคงเรียกร้องอย่างสันติอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยหยุด คล้ายหลาย ๆ ฉากในภาพยนตร์ จดหมายจากมาซานเจีย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มอื่น ๆ อีกจำนวนมากในประเทศจีนที่ถูกประทุษร้ายและกำลังประท้วงด้วยวิธีต่าง ๆ