(Minghui.org) ก่อนที่จะฝึกจิตใจในหนทางของฝ่าหลุนต้าฝ่า ฉันมีอาการป่วยหนักหลายอย่าง จากการศึกษาฝ่าและฝึกท่า อาการป่วยทั้งหมดของฉันก็ค่อย ๆ หายไป ฉันขอเล่าประสบการณ์บางส่วนระหว่างเดินบนเส้นทางนี้
สุขภาพของฉันย่ำแย่ที่สุดในปี 2008 ฉันกลัวที่จะเข้านอนเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกในตอนเช้า สามีของฉันทำงานบ้านเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อเวลาผ่านไป เขาก็เหนื่อยหน่ายกับสภาพนี้และต้องการย้ายไปอยู่ที่อื่น ฉันอารมณ์เสียกับการตัดสินใจของเขามากจนร้องไห้และดุด่าเขา เขาจึงตัดสินใจอยู่ต่อ แต่สุดท้ายฉันก็ย้ายไปอยู่กับพี่สาวของฉัน
หลังจากเข้าใจสถานการณ์แล้ว พี่สาวของฉันก็ไม่ได้พยายามเกลี้ยกล่อมฉันให้กลับบ้าน เธอบอกให้ฉันพักอยู่กับเธอระยะหนึ่ง พี่สาวของฉันเป็นผู้ฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า เธอเปิดบันทึกเสียงการบรรยายของท่านอาจารย์หลี่หงจื้อขณะที่ฉันนอนอยู่บนเตียง หลังจากฟังการบรรยาย ฉันก็รู้สึกว่าร่างกายของฉันไม่เจ็บปวดมากเหมือนที่เคยเป็นมา
พี่สาวของฉันเคยพยายามชวนฉันให้ปฏิบัติตามคำสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่ามาก่อนแต่ฉันปฏิเสธ แต่ก็คิดในใจว่าถ้าการฝึกต้าฝ่ารักษาอาการป่วยของพี่สาวได้ ฉันก็ควรลองฝึกดูเหมือนกัน
ในวันที่สี่ที่บ้านพี่สาว ฉันตกลงจะฝึกท่ากับเธอ เมื่อฉันลองฝึกท่าชุดที่สองเป็นครั้งแรก ร่างกายของฉันสั่นไปทั้งตัว แต่ฉันก็อดทน ฉันตระหนักว่าฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเรียนฝ่าหลุนต้าฝ่า มีเพียงต้าฝ่าและท่านอาจารย์หลี่ (ผู้ก่อตั้งต้าฝ่า) เท่านั้นที่ช่วยฉันได้ วันที่ห้า ฉันบอกกับพี่สาวว่าฉันจะเริ่มบำเพ็ญ แล้วฉันก็กลับบ้าน
ลูกชายของฉันเริ่มร้องไห้เมื่อเขาเห็นฉัน ลูกไม่อยากให้พ่อกับแม่หย่ากันเพราะเขาคิดว่าจะไม่มีใครดูแลฉัน ฉันตอบว่า “อย่ากลัวเลย แม่เริ่มบำเพ็ญฝ่าหลุนต้าฝ่าพร้อมกับป้าและลุง แม่จะดีขึ้น”
ฉันพูดกับสามีว่า “ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณ เป็นความรับผิดชอบของเราในฐานะพ่อแม่ที่จะให้บ้านกับลูกชายของเราหนึ่งหลัง เมื่อเขาแต่งงาน เราก็หย่ากันได้”
หลังจากศึกษาฝ่าแล้ว ฉันเข้าใจอย่างหนึ่งว่าผู้ฝึกที่แท้จริงไม่มีโรค ตอนแรกฉันยังคงกินยาลดความดันโลหิตอยู่ คืนหนึ่งฉันฝันว่ามีหลอดแก้วอันหนึ่งโผล่ออกมาจากรักแร้ของฉัน ทำให้ฉันกลัว แต่ฉันแปลกใจมากเมื่อมีมือใหญ่ปัดหลอดแก้วนั้นออกไป จากนั้นหลอดอีกอันหนึ่งก็โผล่ออกมาจากรักแร้อีกข้างหนึ่งของฉัน มือนั้นก็ปัดหลอดออกไปอีก
หลังจากตื่นนอน ฉันตระหนักได้ว่าหลอดแก้วเป็นตัวแทนของความดันโลหิตสูงและต่ำ ตั้งแต่นั้นมา ความดันโลหิตของฉันก็อยู่ในเกณฑ์ปกติ และฉันไม่ต้องกินยาอีก
ท่านอาจารย์หลี่มอบชีวิตใหม่ให้แก่ฉันและช่วยชีวิตครอบครัวของฉันไม่ให้แตกสลาย สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นมากมายตลอดเส้นทางการบำเพ็ญ เช่น ฉันเห็นแสงสีขาวใต้ตาขวาของฉันขณะฟาเจิ้งเนี่ยน และการเดินขึ้นบันไดกลายเป็นเรื่องง่ายมาก
ฉันตระหนักว่าสิ่งที่ท่านอาจารย์พูดเป็นความจริง สิบปีที่ผ่านมา ท่านปกป้องฉันตลอดการบำเพ็ญ ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนผู้ฝึกและความคิดถูกต้องที่แน่วแน่ของฉัน ฉันสามารถผ่านการทดสอบมากมายมาได้ ลึกลงไป ฉันรู้ว่าท่านอาจารย์กำลังดูแลฉันอยู่ และไม่มีใครกล้าประทุษร้ายฉัน
เชื่อฟังท่านอาจารย์ อุตสาหะในการอธิบายความจริง
ท่านอาจารย์กล่าวว่า :
“การอธิบายความจริงไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่เพียงเป็นปัญหาของการเปิดโปงสิ่งชั่วร้ายเท่านั้น การอธิบายความจริงของพวกเราเป็นการกำลังช่วยเหลือสรรพชีวิต ในเวลาเดียวกันยังมีองค์ประกอบของการยกระดับ และกำจัดความยึดติดของตัวพวกท่านเองในระหว่างการบําเพ็ญ เป็นต้น ยังมีองค์ประกอบของการรับผิดชอบของศิษย์ต้าฝ่าในระหว่างการบําเพ็ญ อีกทั้งยังมีเรื่องของการที่ท่านจะทําอย่างไรให้โลกของตัวท่านเองให้เต็ม และสมบูรณ์ในช่วงสุดท้ายของการหยวนหมั่น” (“การบรรยายธรรม ณ ฝ่าฮุ่ยระหว่างประเทศ กรุงวอชิงตัน ดีซี”, แนะนำการเดินทาง)
บำเพ็ญตัวเอง ช่วยอาจารย์เจิ้งฝ่า และช่วยเหลือผู้คน คือภารกิจที่สำคัญที่สุดของผู้ฝึกต้าฝ่า ตอนเช้าฉันออกไปอธิบายความจริงและตอนบ่ายศึกษาฝ่า ฉันรู้ว่าเวลาพูดคุยกับผู้คนเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่า ที่จริงแล้วคือท่านอาจารย์ที่กำลังช่วยเหลือผู้คน
ครั้งหนึ่งขณะอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ฉันเห็นหญิงชราอายุ 80 ปีนั่งอยู่บนม้านั่งใกล้ๆ ฉันเดินไปหาและเริ่มพูดคุยกับเธอ เธอบอกว่าเธอไม่เคยไปโรงเรียน ฉันจึงคิดว่าเธอน่าจะไม่ใช่สมาชิกขององค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่แล้วเธอก็พูดว่า “ฉันเป็นผู้อำนวยการคณะกรรมการสตรีมา 20 ปีแล้ว” ฉันตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเธอเป็นสมาชิกพรรคและอธิบายกับเธอว่าทำไมทุกคนควรลาออกจากองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หลังจากเธอตกลงที่จะลาออก เราทั้งคู่ต่างก็ยิ้ม
เพื่อนคนหนึ่งมาเยี่ยมฉัน เมื่อเธอเห็นฉัน เธออุทานว่า “ว้าว วันนี้คุณดูสุขภาพดีและดูสวยจัง คุณไม่ใช่ผู้หญิงป่วยใบหน้าซีดเหลืองอีกต่อไปแล้ว !” ฉันบอกกับเธอว่า “เหมือนแม่สามีของเธอ เดี๋ยวนี้ฉันฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าแล้ว” เธอมองมาที่ฉันเหมือนไม่เชื่อ แม่สามีของเธอฝึกต้าฝ่ามานานกว่าสิบปีแล้วและทำงานบ้านทั้งหมดด้วยตัวเอง
เธอบอกเพื่อนของฉันว่า เธอจะยังดูแลเธอได้เมื่อเธอแก่ตัวลง เพื่อนของฉันมีโรคหลายโรค และหนึ่งในนั้นคือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ มันทำให้เธอเดือดร้อนมากที่สุด เธอสัมผัสน้ำเย็นไม่ได้และร่างกายของเธอก็ปวดไปทั้งตัว เธอต้องนอนลงบ่อย ๆ เพราะอาการของโรค หลังจากเห็นความเปลี่ยนแปลงของฉัน เธอตัดสินใจว่าจะฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่าด้วย
ฉันพูดกับเธอว่า “คุณฝึกไทเก็กมา 20 ปีแล้ว สุขภาพของคุณดีขึ้นบ้างไหม” เธอเงียบ เธอรู้เกี่ยวกับความดีงามของต้าฝ่าแล้วเพราะเธอเห็นการเปลี่ยนแปลงของแม่สามี ฉันพูดต่อว่า “เมื่อคุณเริ่มบำเพ็ญ คุณจะรู้ว่าทำไมคนจึงป่วย และคุณจะไม่โทษใคร” ทุกคนในครอบครัวของเธอลาออกจากองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์จีนหมดแล้ว และเธอเริ่มปฏิบัติตามคำสอนของฝ่าหลุนต้าฝ่าและฝึกท่าแล้ว
ไม่ยึดติดกับความร่ำรวย
ในปี 2010 อดีตผู้จัดการบริษัทมาเยี่ยมฉันพร้อมของกำนัลมากมาย ฉันเกษียณมาสี่ปีแล้ว บริษัทที่เขาทำงานอยู่กำลังขยายกิจการและต้องการเพิ่มแผนกสินเชื่อและการจำนอง เขาต้องการให้ฉันช่วยดำเนินการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เงินเดือนก็ดีมาก แต่ฉันปฏิเสธงานและอธิบายว่าฝ่าหลุนต้าฝ่าเปลี่ยนแปลงฉันอย่างไร ฉันช่วยให้เขาลาออกจากพรรคด้วย จากนั้นเขาก็ขอจ้วนฝ่าหลุนจากฉันหนึ่งเล่ม
ต้าฝ่าให้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแก่ฉัน และช่วยให้ฉันเข้าใจว่าทำไมเราจึงมาอยู่บนโลกนี้และเราจะไปที่ไหน ท่านอาจารย์กล่าวว่า :
“คนเขาพูดว่า : ฉันมาถึงสังคมคนธรรมดาสามัญที่นี่ ก็เหมือนพักโรงแรม อยู่ไม่กี่วันก็ไปแล้ว บางคนก็ยังอาลัยอาวรณ์สถานที่นี้ จนลืมบ้านของตัวเองไปแล้ว” (บทที่ 9, จ้วนฝ่าหลุน)
ความร่ำรวยไม่มีความหมายอะไรกับผู้บำเพ็ญ ฉันแค่ต้องการมุ่งเน้นที่จะยกระดับจิตใจของฉัน และเนื่องจากธุรกิจเกี่ยวกับการกู้ยืมมีความเสี่ยงสูงมาก ฉันไม่ต้องการนำความอับอายมาสู่ต้าฝ่าหากมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้น
ฉันคิดเช่นนั้น แต่ผู้จัดการมาหาฉันอีกครั้งและนำของกำนัลมาให้อีก หลังจากพิจารณาแล้ว ฉันตกลงจะทำงานที่สาขาของบริษัทภายใต้เงื่อนไขสามประการ : ฉันจะซื้อของกำนัลที่มีมูลค่าใกล้เคียงกันคืนให้เขา ฉันจะช่วยในกระบวนการขอสินเชื่อแต่จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับด้านการขายของธุรกิจการกู้ยืม และฉันจะไม่รับเงินเดือน
หลังจากสามเดือนที่หวังว่าขั้นตอนการขอสินเชื่อจะไม่ประสบความสำเร็จ ฉันได้รับแจ้งว่าการขอสินเชื่อไม่ได้รับการอนุมัติ ฉันรู้สึกโล่งใจ ในเวลานั้นมีธนาคารเพื่อการลงทุนหลายแห่ง และธนาคารหลายแห่งล้มละลายเนื่องจากการบริหารจัดการที่ไม่ดี หลายคนสูญเสียเงินจำนวนมากเพราะพวกเขา ขอบคุณต้าฝ่าและท่านอาจารย์ที่ชี้นำทางที่ถูกต้องให้ฉัน
ผลลัพธ์ของการย่อหย่อน
เมื่อเวลาผ่านไป สภาพแวดล้อมการบำเพ็ญของฉันมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตัวอย่างเช่น เมื่อหลานสาวของฉันอายุมากขึ้นและไม่ต้องกลับบ้านเพื่อรับประทานอาหารกลางวันแล้ว ฉันจึงมีเวลามากขึ้นที่จะศึกษาฝ่าและยกระดับซินซิ่ง อย่างไรก็ตาม ฉันไม่สามารถรักษาจิตใจที่ใสสะอาดและมีสมาธิในขณะอ่านฝ่า และบางครั้งฉันก็ผล็อยหลับไป มีบางครั้งมันยากสำหรับฉันที่จะตื่นทันเวลาเพื่อฟาเจิ้งเนี่ยนตอนเที่ยงคืน ฉันตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาและรู้ว่ามันเป็นการรบกวนของอิทธิพลเก่า
ในเดือนมิถุนายน 2021 ฉันรู้สึกไม่สบายและพูดติดขัด หลังจากฟาเจิ้งเนี่ยน ฉันคิดว่าจะดีขึ้นในวันรุ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กลับเลวร้ายลง และฉันพูดเกี่ยวกับฝ่าหลุนต้าฝ่าให้คนฟังไม่ได้ ฉันปฏิเสธอาการที่ฉันมีทั้งหมด โดยรู้ว่ามันเป็นการรบกวนของอิทธิพลเก่า ฉันอยู่ที่บ้านของพี่สาวเป็นเวลาห้าวัน และเน้นที่การศึกษาฝ่า ฝึกท่า ค้นหาจากภายใน และฟาเจิ้งเนี่ยน ฉันดีขึ้นและกลับบ้านได้
ในฐานะผู้ฝึกต้าฝ่า สิ่งสำคัญคือเราต้องจัดลำดับความสำคัญของการศึกษาฝ่า ทำความเข้าใจในฝ่าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และปฏิเสธการรบกวนทั้งหมดของอิทธิพลเก่า เราต้องขยันหมั่นเพียรในการบำเพ็ญ ทำคำปฏิญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของเราให้บรรลุผล และติดตามท่านอาจารย์กลับสู่สวรรค์
ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ขอบคุณเพื่อนผู้ฝึก
ข้อคิดเห็นในบทความนี้เป็นความคิดเห็นหรือความเข้าใจของผู้เขียนเอง เนื้อหาทั้งหมดที่เผยแพร่บนเว็บไซต์นี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Minghui.org หมิงฮุ่ยจะผลิตฉบับรวมเล่มของเนื้อหาออนไลน์เป็นประจำรวมทั้งในโอกาสพิเศษด้วย
ลิขสิทธิ์ © 2024 Minghui.org สงวนลิขสิทธิ์
หมวดหมู่: ผลดีต่อสุขภาพ